งงงวยเลย! จอดรถยนต์หน้าบ้านตนเอง ถูกมนุษย์ป้าแจ้งจับ เพื่อนบ้านรุมเปิดเผยความประพฤติปฏิบัติ

[Jenny937]

สาวงงงันหนัก หยุดรถยนต์ หน้าบ้านตัวเองแท้ๆถูกมนุษย์ป้า แจ้งตำรวจจับ 2 ครั้งติด เพื่อนบ้านเผยโฉมการกระทำอีก ปล่อยหมากัดคนในซอย เรื่องร้องทุกข์ยาวเป็นหางว่าว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มี.ค.2566 จากในกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์วีดีโอเหตุการณ์เถียงกันกับเพื่อนบ้านอีกหลังที่อยู่ชิดกัน ภายหลังมีปัญหาเรื่องการจอดรถยนต์และก็ถูกเพื่อนบ้านนำราวตากผ้าตั้งตากแดดหน้าบ้าน จนมีการโต้แย้งกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจดูเหตุดังกล่าวข้างต้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จ.นนทบุรี พบกับ น.ส.มัลลิกา (ขอรักษานามสกุล) อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปวีดีโอเหตุการณ์โต้แย้งไว้ พูดว่า ตนกับครอบครัวได้ย้ายมาอาศัยที่ที่พักหลังนี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่เกือบติดท้ายตรอกต่อไปอีกข้างหลัง โดยบ้านของคู่พิพาทที่อยู่ติดกำแพงด้านหลังซอยได้ปลูกต้นไม้สร้างสวนหย่อมขึ้นเต็มพื้นที่บนถนนหน้าบ้านพักของเขาจนถึงแทบเป็นไปไม่ได้เข้าออกนางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่าต่อขาน ก็เลยต้องอาศัยมาเดินออกผ่านที่หน้าบ้านของตนเองเป็นประจำ แต่ว่าตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วย ด้วยเหตุว่าได้ยินกิตติศัพท์ของเพื่อนบ้านรายนี้มาพอเหมาะพอควรก่อนจะย้ายเข้ามาอยู่ แม้ว่าจะถูกค่อนแคะแอบต่อว่าต่อขานเสมอๆ รวมถึงบางวันยังมาเดินถ่ายรูปรอบรถยนต์ของตัวเองที่จอดอยู่หน้าบ้านด้วยนางสาวดอกมะลิ กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อโดยประมาณวันที่ 11 กุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ ภายหลังตนขับขี่รถยนต์ออกไปทำธุระนอกบ้านแล้วกลับเข้ามา ก็พบว่าเพื่อนบ้านรายดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้นำราวตากเสื้อผ้ามาตั้งแขวนตากแดดเต็มหน้าบ้านของตัวเอง ทำให้ตนไม่สามารถที่จะนำรถเข้าหยุดบนถนนหนทางหน้าบ้านได้ตามธรรมดา ตนก็เลยเดินไปเรียกให้เขามาขยับราวตากผ้าออกไป แต่ถูกเพื่อนบ้านรายนี้ว่ากล่าวด่าต่างๆนานา แม้กระนั้นตนก็ข่มใจไม่พยายามโต้ตอบอะไรกลับไปนางสาวมัลลิกา บอกว่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนกับลูกสาวยืนคุยกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอยู่นั้น รถของเพื่อนบ้านรายนี้ได้ขับเข้ามาสุดซอยแล้วจอดขวางหน้าบ้านของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอีกที ก่อนที่หญิงสูงอายุในรถยนต์จะเปิดประตูรถยนต์ลงมาแล้วต่อว่าต่อขานพวกตนที่ยืนคุยกันอยู่ว่าไม่มีสำนึกนางสาวดอกมะลิ กล่าวด้วยว่า ก็เลยทำให้ลูกสาวตนที่อยู่ในเรื่องด้วยทนไม่ไหว ถกเถียงกับหญิงสูงอายุคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวไปว่า ผู้ใดกันที่ไม่มีความสำนึกยึดพื้นที่ถนนหนทางศูนย์กลางไปปลูกต้นไม้จนถึงเข้าออกบ้านตนเองมิได้จำเป็นต้องมาอาศัยออกที่หน้าบุคคลอื่นยังไม่พอ ยังเอาราวตากเสื้อผ้ามาตั้งขวางทางบ้านบุคคลอื่นอีก แล้วต่อจากนั้นชายเฒ่าอีกคนได้เข้ามาต่อว่าต่อขานตน ถนนเป็นของศูนย์กลางไม่มีโฉนด คนใดกันจะทำอะไรก็ได้ หากไม่สบอารมณ์ก็ไปขึ้นศาลกัน หลังจากนั้นชายเฒ่าเพื่อนบ้านคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวก็ถ่ายภาพรถยนต์ของตนแล้วหายเข้าบ้านไป

น.ส.ดอกมะลิ กล่าวต่อว่า ต่อไปไม่นาน จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสองคนขับจักรยานยนต์เข้ามาที่หน้าบ้านพักตน โดยพูดว่ามีคนโทรไปฟ้องร้องว่าบ้านตนหยุดรถยนต์ขวางทางเข้าออกบ้านพักบุคคลอื่น ตนก็เลยได้ชี้ให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มองว่า รถยนต์ของตนเองหยุดอยู่บนถนนหนทางหน้าบ้านในเขตพื้นที่ของตัวเอง ไม่ได้หยุดล้ำไปยังหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน เนื่องจากว่าต้นไม้รวมทั้งวัชพืชต่างๆที่อยู่ในกระถางต่างหากที่ปลูกรุกล้ำเข้ามาที่พื้นที่หน้าบ้านตนแล้วเขาใช้เป็นทางเดินเข้าออกผ่านหน้าบ้านตนแทนน.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า ทำให้ตนหยุดรถยนต์ใกล้ไปข้างหน้าเพื่อไม่ให้ท้ายรถยนต์ยื่นไปล้ำหน้าบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ต่อไป เขาก็เลยกล่าวอ้างว่าตนไปแกล้งเขา ถึงแม้ว่าเขาสามารถขยับกระถางที่มีไว้ปลูกต้นไม้ทำทางเข้าออกได้อีกด้านหนึ่งแต่ว่าเขาก็ไม่ยินยอมเปิดทางนั้นเอง เลือกที่จะเดินผ่านเข้าออกหน้าบ้านตนแทน เมื่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มาเห็นจึงได้เรียกเขาออกมาคุยด้วยเพื่อไกล่เกลี่ยเจรจาแม้กระนั้นเขาไม่ยอม อ้างตัวว่าเป็นทนายความเก่าเดี๋ยวไปจบในชั้นศาล กระทั่งตำรวจจนใจที่จะชี้แจงแล้วเดินทางกลับไป

น.ส.มัลลิกา บอกว่า ต่อจากนั้นเพื่อนบ้านทั้งข้างหญิงฝ่ายชายเดินทางออกไปเมืองนอกบ้านได้ไม่นาน ก็มีรถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดใหม่ขับเข้ามาที่หน้าบ้านตนอีก โดยบอกว่ามีคนแจ้งเหตุจอดรถขวางเข้าไป ก็เลยจะต้องมาดู ซึ่งตนก็ได้อธิบายกลับไปเหมือนที่ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแรก ถัดมาตนได้นำรายนามของเพื่อนบ้านในตรอกที่ได้รับผลกระทบจากเพื่อนบ้านข้างหลังนี้ ที่ยังมีความประพฤติเลี้ยงสุนัขแล้วปล่อยให้หมาไปไล่กัดคนในซอยโดยไม่ห้ามนางสาวดอกมะลิ กล่าวต่อว่าต่อขาน รวมถึงวัชพืชต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่กับหน้าบ้านจนกระทั่งกิ่งไประกับสายไฟฟ้า เข้ายื่นร้องทุกข์กับฝ่ายนิติของหมู่บ้านไปแล้ว แม้กระนั้นเรื่องก็เงียบไม่มีคำตอบคำชี้แจงหรือวิธีแก้ไขใดๆกลับมาให้ตนรู้เลย บุตรสาวตนจึงตัดสินใจโพสต์คลิปเพื่อขอความเห็นชอบจากโลกโซเซียลเพื่อหาทางแก้ปัญหาเพื่อนบ้านเจ้าปัญหาและหัวหมอรายนี้

ต่อมาข้าราชการศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจดู จึงพบว่าเพื่อนบ้านรายนี้มีเรื่องถูกร้องเรียนเข้ามาแล้วหลายครา ทั้งยังความประพฤติที่ยึดพื้นที่บนถนนส่วนกลางเป็นพื้นที่ส่วนตัว เรื่องเลี้ยงหมาที่ปล่อยให้หลุดไปไล่กัดคนอื่นๆด้วย ซึ่งเรื่องนี้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อยไม่ได้นิ่งดูดาย เพราะเหตุว่าติดในเรื่องข้อบังคับที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงเป็นของข้างนิติบุคคลของหมู่บ้านที่ดูแลดูแลคุ้นเคยอยู่ ไม่ได้ยกพื้นที่ให้ทางเทศบาล หรือ อบต.เป็นผู้ดูแลศูนย์ดำรงธรรมจะได้เร่งรัดให้ข้างนิติบุคคลของหมู่บ้านที่นี้เร่งบังคับใช้กฎเกณฑ์ของหมู่บ้านอย่างเคร่งครัดต่อไปกับเจ้าของบ้านรายนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งร้องทุกข์กันจนกลายเป็นเหตุแย่ลงกว่าเดิมถัดไป

นนทบุรี
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12862/