• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นทำไม ? รักษาได้เช่นไร ?

Started by Panitsupa, January 08, 2023, 12:24:49 PM

Previous topic - Next topic

Panitsupa

ตับมีปัญหา จะต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เพราะถ้าปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง รวมทั้งมะเร็งตับได้เหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงจุดสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าหากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนกลับมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตับกำลังมีปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และควรดูแลบำรุงยังไง..? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) แล้วก็ยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะเอาไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าหากร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็ราวกับตายทั้งเป็น คำบอกเล่าที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสภาพร่างกาย ซ่อมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด เป็นต้นว่า อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและเกลือแร่ไว้ภายในเส้นเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารจำพวกไขมัน และถึงสารเริ่มของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและก็เกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง ของกินรวมทั้งยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในรูปแบบฉี่ หรือถ่ายมาพร้อมกับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบพบปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งยังจากเชื้อไวรัส หรือโรคจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนจำนวนมากมีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักเป็นผลมาจากการกระทำทำร้ายตับได้แก่
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบรับประทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนดึกดื่น ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากจนเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารตอนเช้า
9.ชอบรับประทานอาหารครึ่งดิบครึ่งสุก
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเซ็กส์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลพวกนี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมประจำวันซึ่งเราอาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานหนัก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในแต่ละวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองพิจารณาอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา อย่างเช่น มีลักษณะเหนื่อยง่าย หมดแรง , มีปัญหาสำหรับการนอน , ท้องอืดเสมอๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการของกินน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯถ้าหากคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่มีความสนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้สึกตัวอีกทีความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลและรักษาตับพื้นฐาน
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยทางทฤษฎีถ้าเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แต่มิได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเย็นชาให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดตับอักเสบบ่อยๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งมะเร็งยิ่งไม่ต้องพูดถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดคือ การตั้งใจบำรุงตับเพื่อป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
(1) ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงของหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นรวมทั้งรสแทนน้ำตาลและผงชูรส
กินอาหารปรุงสุก รักษาสุขอนามัย ลดความเสี่ยงสำหรับการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
บริหารร่างกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างต่ำ 60 นาที/สัปดาห์)
ขณะทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมถึงก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับสิ่งเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้ลดน้อยลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นถ้าเกิดปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมคือถ้าหากคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำเป็นยาก ลองดูเทคนิคน่ารู้ ที่สามารถจะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ด(ไม่)ลับน่ารู้ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องใหญ่" ของกินที่เรารับเข้าไปในทุกๆวันก็ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้เหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรากินอะไรลงไป.. แล้วก็นี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามตลาดทั่วๆไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แต่เครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แฝงไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ แล้วก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่การค้นคว้าว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับการลดไขมันในผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
หากแม้ชื่อจะไม่คุ้นหูคนอีกหลายๆคน แต่ว่ามันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกแล้วก็กรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นหนึ่ง โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการทำการค้นคว้าว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย ทั้งพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย แล้วก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ชะล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่รู้ตัว เมื่อต้องใช้ชีวิตและก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งจำเป็นซึ่งสามารถปกป้องและก็ลดความเสี่ยงสำหรับการเป็น โรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่คร่าชีวิตคนไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" ร่างกายที่แข็งแรงเราทำขึ้นเองได้.. โดยแม้สงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับต้องการขอคำแนะนำผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ขอรับคำปรึกษาหารือปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage แล้วก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและก็เภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำคุณในทุกเมื่อ