11 แนวทางช่วยทำให้คุณเลิกหนักใจ เรื่องที่ควบคุมมิได้

[dsmol19]

อย่ าพึ่งตกใจไปพบกคุณเป็นคนที่มักเ ค รี ย ด หรือวิตกกับสิ่งต่างๆเนื่องจากว่าโน่นเป็นเรื่องธรรมดา

แม้กระนั้นนิสัยอย่ างนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอก เนื่องจากว่ามันมีผลต่อสภาพจิตใจและชีวิตประจำวันของคุณได้


ถึงแม้ว่าการเลิกนิสัยแบบงี้นั้นบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่ง่าย แต่ว่าก็มีแนวทางอยู่แบบเดียวกัน วันนี้พวกเรา


จึงมีเทคนิคที่จะสามารถช่วยให้ท่านไม่เ ค รี ย ด เมื่อจำต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆและก็สิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้ าง

1. เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ท่านชอบอ่อนใจอยู่เสมอก็คือการปล่อยวางไม่เป็น การปล่อยวางนั้นย าก

แต่ว่าต้องจดจำไว้ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างบางอย่ างที่คุณเปลี่ยนมิได้อยู่ดี สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไปแล้วมันไม่สามารถย้อนไปคืนมาได้หรอก

เพราะอะไรคุณปฏิเสธมันแล้วปล่อยมันไปล่ะ ทีนี้คุณจะไปก้าวไปข้างหน้าต่อรวมทั้งโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ

2. จุดโฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็พอ

ถ้าเกิดในอดีตกาลคุณทำผิดพลาดไปแล้ว ก็จำเป็นต้องมาคิดถึงสิ่งที่คุณสามารถปรับแก้มันได้ขณะนี้แทน ถ้าคุณไม่ชอบใจกับผลงานในเดือนที่ผ่านมา

ก็ทดลองพัฒนาตัวเองในขณะนี้ให้ดีขึ้น อย่ ามัวรีรอที่จะแก้ไขเพราะเหตุว่ามันอาจจะสายไป ได้แก่หากคุณสอบตก คุณก็บางครั้งอาจจะต้องสร้างนิสัยใน


การเล่าเรียนขึ้นมาใหม่ ควรอย่ าลืมว่ามีสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ และก็จงโฟกัสกับสิ่งกลุ่มนี้จะดีมากกว่า

3. ปรับใช้แผนที่ไม่ต า ย ตัวและก็มีความยืดหยุ่น

อย่ าพึ่งยอมยกธงขาวถ้าเกิดสิ่งต่างๆไม่เป็นอย่ างที่คุณต้องการ ทดลองใช้แผนอื่นๆแทนก็ได้

คุณอาจจำเป็นต้องแปลงยุทธวิธี เปลี่ยนวิธีการคิด ลองนึกถึงแนวทางแก้ปัญหาแทนที่จะมานั่งกังวลกับสิ่งที่ไม่เป็นดุจดวงใจ

4. ออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone)

อีกหนึ่งแนวทางที่สามารถจะช่วยให้คุณหายตื่นตระหนกก็คือการทดลองทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมด้วยการเปิดใจรับของใหม่ๆเผชิญคนใหม่ๆ

ลองทำสิ่งใหม่ๆคุณอาจจะพบว่าตัวเองทำเป็นดีมากยิ่งกว่าที่คิด ต้องออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของตนเอง แล้วคิดให้ต่างไปจากเดิม

5. เป็นจริงเป็นจังปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม

คุณจำเป็นต้องพย าย ามปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะมัวแต่ไม่สบายใจกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ศึกษาจากความบกพร่องในอดีตกาล

แล้วก็อย่ าพย าย ามเปลี่ยนแปลงอดีตกาลเนื่องจากโน่นเป็นสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ แต่ว่าต้องเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวคุณให้ดีกว่าเดิม

6. ใช้เวลากับคนคิดบวก

การวิตกมากจนเกินความจำเป็นนั้นทำให้คุณสติแตกได้ ลองคุยกับเพื่อนพ้องที่มีทัศนคติที่ดี หรือมองโลกในด้านบวก

คุยกับผู้ที่เขาตั้งใจฟังคุณ แล้วก็เข้าใจคุณ เล่าให้เขาฟังว่าคุณกังวลใจกับอะไร


แล้วก็เอาข้อเสนอแนะของพวกเขามาประยุกต์ การคุยกันกับคนที่คิดบวกจะช่วยให้คุณได้มุมมองใหม่ๆเยอะขึ้น

7. เปิดใจรับความเคลื่อนไหว

หลายสิ่งในชีวิตนั้นเกิดเรื่องที่ไม่แน่นอน แต่นี่แหละคือต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตพวกเรานั้นสื่อความหมายขึ้นมาได้ โดยเหตุนี้จงเปิดรับความ

เปลี่ยนแปลง เนื่องจากว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้

แต่คนใดจะทราบล่ะว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้ าง อย่ ากลัว และก็ควรเข้าไปค้นหามัน

8. อย่ าโทษตนเอง

คุณไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้ทุกอย่ าง ด้วยเหตุนั้นอย่ าโทษตัวเอง คุณอาจจะเคยทำอะไรแ ย่ๆมาก่อน

แต่ว่าคุณก็สามารถเอามันมาเป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุงตนเองได้ การโทษตัวเองมีแต่ว่าจะทำให้สิ่งต่างๆ

แ ย่ลง สิ่งที่คุณควรทำคือมองหาคนที่เคยทำผิดพลาดแล้วเรียนรู้ว่าเขาปรับปรุงมันได้อย่างไร ให้กำลังใจตนเองว่าคุณก็ทำได้เหมือนกัน

9. ฝึกสมาธิแล้วก็มีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ

นั่งสมาธิ ฝึกลมหายใจ ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน แล้วคุณจะพบว่ามันส่งผลดีต่อคุณอย่ างมาก

10. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

วิถีชีวิตคือหนึ่งในสาเหตุของความหนักใจ อย่ างอย่างเช่น คุณกังวลว่าตัวเองอ้วนเกินไป แต่ว่าคุณก็ยังไม่ยินยอมทำอะไร

แทนที่จะอยู่เฉยๆเพราะอะไรไม่ทดลองเปลี่ยนแปลงมะแม่น้ำละเล็กละน้อยล่ะ? ลองออกกำลังกายวันแล้ววันเล่า หลีกเลี่ยงอ า ห า ร ขยะ นอนหลับให้เพียงแต่


พอ ครั้งคราวคุณอาจจะมีความรู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก แต่ว่าศัตรูจริงๆก็คือตัวคุณเองนั่นแหละ ด้วยเหตุผลดังกล่าวคุณต้องเอาชนะตัวเองให้ได้

11. หยุดเล่นโซเชียลมีเดีย หรือทดลองพักเอาไว้ก่อน

การเล่นเครือข่ายสังคมมากเกินไปนั้นทำให้ท่านวิตกกังวลได้ง่ายอย่างยิ่ง มันมีการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆอยู่เสมอ ถ้าเกิดคุณมีความคิดว่าการ

เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คมันทำให้คุณรู้สึกแ ย่ คุณก็จำเป็นที่จะเลิกเล่นซะ แล้วหันไปทำอะไรที่มีประโยชน์ หรือให้ความสบายกับคุณแทนจะดีมากกว่า
กังวล
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13460/